top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนบีเบนซ์

5 การแสดงสแตนด์อัพคอมมิดี้ ที่เหมาะสำหรับ ‘มือใหม่หัดดู’

อัปเดตเมื่อ 1 มี.ค. 2564

บทความโดย: บีเบนซ์ - พงศธร ธิติศรัณย์ (Bebenz Pongsatorn)



ฉบับแนะนำสั้นๆ แบบไม่อธิบาย (ส่วนฉบับยาว โปรดเลื่อนลงอ่านด้านล่าง)


1 Gabriel Iglesisa: I’m sorry for what I said when I was hungry


2 Demetri Martin: Live (At the time)


3 Travor noah: Afraid of the dark


4 Jerry Seinfeld: 23hours to kill


5 Sebastian Maniscalco: Stay Hungry


------------------------------


โดยการแสดงทั้งหมดนั้น มีอยู่ในเน็ทฟริก (Netflix) สามารถเปิด แล้วเสิร์ทตามได้เลย


รายละเอียดแต่ละโชว์ นอนรอให้อ่านอยู่ด้านล่าง แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ผู้เขียนมีอะไรจะสารภาพก่อน


ต้องเกริ่นให้เข้าใจกันว่า

นี่เป็นเพียงการแนะนำโชว์ ‘ฉบับเอาแต่ใจตัวเอง’ ขั้นสุด ฉุดไม่อยู่

สืบเนื่องมากจากผู้เขียนได้ดูสแตนด์อัพคอมมิดี้แบบมาราธอนจนเกือบหมดคลัง

ก่อนที่จะมาคัดสรรโชว์เอาแบบที่ดูง่าย สบายสมอง ไม่ต้องใช้พลังเยอะในการดู

หรือขนาดต้องนั่งขบคิดตามมากแบบโจทย์คณิตคิดเร็ว


ผู้เขียนจึงใช้วิธีนึกว่า ชอบโชว์ไหน ก็จะแนะนำโชว์นั้น

สั้นๆ ง่ายๆ ไม่คิดเยอะ โดยเริ่มจากที่คิดว่า เป็นโชว์ที่ไว้ใช้เสพเพื่อรับความบันเทิงอย่างแท้จริง ที่หากดูแล้วอาจได้อะไรมากกว่าความบันเทิง


------------------------------


ฉบับแนะนำยาวๆ แบบมีคำอธิบาย



1.

Gabriel Iglesias: I’m sorry for what I said when I was hungry


ตั้งแต่เปิดตาเข้าสู่โลกของสแตนด์อัพคอมมิดี้ของต่างประเทศ

นักแสดงคนนี้เป็นหนึ่งคนในหมู่นักแสดงที่น้ำหนักมากที่สุด และตลกที่สุดในหมู่นักแสดงตลกร่างท้วม

อย่าเพิ่งหาว่าไปพูดถึงรูปร่างของนักแสดงคนนี้

เพราะเค้าค่อนข้างภูมิใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ เห็นได้จากมุกทั้งหลายที่นำมาแสดงก็เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ที่เริ่มตั้งแต่ เรื่องกิน กระทั่งเรื่องนมปั่นเค้กช็อกโกแลต ที่ก็ยังเกี่ยวข้องกับการกิน


แต่อันที่ไม่เกี่ยวก็มี

เรื่องเม้าท์ลูก เรื่องแบทแมน เรื่องการเจอคนดัง และอีกหลายเรื่อง


เรื่องเพอฟอร์มานซ์บนเวที คนนี้เรียกได้ว่าปรมาจารย์

คุณจะต้องฉงนใจแน่ถ้าได้ลองดูโชว์ของชายร่างท้วมคนนี้ เพราะเริ่มมาตั้งแต่เสียงของเขาเลย

เสียงที่สามารถบิด ดัด ได้หลายแบบ

เท่าที่เห็น เป็นเสียงผู้หญิง หรือกระทั่งคอลเซนเตอร์ก็ยังได้

มันไม่ใช่แค่เหมือน แต่นักแสดงคนนี้เลียนแบบจนใช่ จนกลายเป็นคนที่เลียนแบบ

หากปิดตาแล้วฟังอย่างเดียว อาจจะคิดว่าบนเวทีมีหลายคน


เท่านั้นยังไม่พอ

เสียงที่ไม่นับว่าเป็นเสียงพูด ชายร่างท้วมคนนี้ก็ทำได้ดีมาก

มากแบบที่ยังไม่เห็นใครทำได้ดีเท่านี้

นั่นคือเสียงบิดกุญแจ ขับรถยนต์ออกไป เสียงเคาะ หรือเสียงที่เกิดจากวัตถุต่างๆ

กระทั่งเสียงล้อคนเม็กซิกัน ที่ต้องลองดูถึงเข้าใจ

ไม่แน่ว่า ในลำคอนักแสดงคนนี้ อาจมีอะไรพิเศษกว่าชาวบ้าน


ความสามารถพิเศษนี้ ทำให้ผู้ชมอย่างเรานึกภาพตามได้ง่าย และไหลไปกับเรื่องราวได้สนุกมากๆ




2.

Demetri Martin: Live (At the time)


สำหรับผม นักแสดงตลกหนุ่มคนนี้เป็นที่เลื่องชื่อลือชามากๆ

ด้วยการแสดงที่เป็นแบบตลกหน้าตาย เน้นปล่อยให้มุกตลกได้ทำงานหลังจากเล่าจบไปแล้วสองวินาที

หรือบางทีอาจต้องขบคิดนานกว่านั้น เพื่อที่จะเข้าใจมุกที่เค้าครีเอท จนค่อยหลุดขำออกมา

แต่ถึงจะนานอย่างไร ก็อย่าให้ถึงกับต้องนานเป็นวันเลย นั่นอาจจะนานเกินไปสำหรับพวกเรา

นี่เป็นเรื่องแรก


เรื่องที่สอง

ที่เห็นว่าเป็นทักษะของนักแสดงตลกคนนี้ที่ใครยากจะเลียนแบบได้

ก็คือความสั้นของแต่ละมุก - ใช่ครับ เรากำลังกล่าวถึง ความสั้น


คุณอาจจะเคยเห็นนักแสดงตลกเล่าเรื่องนานหลายนาทีมามากมาย

นั่นอาจเป็นการเล่าเรื่องที่เราเห็นเป็นปกติ เป็นสิ่งที่เราเข้าใจว่าการแสดงสแตนด์อัพคอมมิดี้เป็นแบบนี้

แต่ก็มีอีกแบบ ที่ได้จากชายหนุ่มคนนี้ เพราะแต่ละมุกของเขานับเป็นหน่วยวินาที

อย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งนาที

นั่นจึงแปลว่าเหมือนเราได้ฟังเรื่องสั้นๆ เป็นหลักสิบหลักร้อยเรื่องในหนึ่งโชว์

ที่เอามาเรียงต่อกัน สานต่อจนกลมกล่อมได้ที่ ฟังไปเพลินๆ

จากเรื่องนี้ สู่เรื่องนั้น กระโดดไปเรื่องโน้น กลับมาเรื่องใกล้ตัว ถอยไปเรื่องไกลตัว


มันเป็นสิ่งที่หาดูได้ยาก เพราะการแสดงแบบนี้ไม่ธรรมดา

สิ่งที่เตรียมมาต้องอัดแน่นไปด้วยความกระชับ เป็นศิลปะคล้ายกับการเล่นทวิตเตอร์

ต้องเข้าใจเรื่องที่จะเล่ามากๆ

และออกแบบให้จบภายในสามสี่ประโยคเท่านั้น


และอีกสิ่งที่น่านับถือของนักแสดงตลกคนนี้ คือเรื่องของความจำ

มุกสั้นๆ มหาศาลเหล่านั้นที่ออกมาจากปากและการแสดงเรื่อยๆ

บางเวลาอาจทำให้เราสงสัยว่า เขาจำหมดนั่นได้ยังไง

นี่ยังไม่นับว่า เอาสิ่งที่จำนั้น มาเล่าบนเวทีแบบสดๆ ได้อย่างเฉียบขาด


หากมีใครถามผมว่านักแสดงตลกที่สุดคือคนไหน ผมคงตอบไม่ได้

แต่หากมี่คนถามว่านักแสดงตลกคนไหน ความจำดีที่สุด ผมยกให้คนนี้


ทางไปดู: Demetri Martin: Live (At the time)



3.

Trevor noah: Afraid of the dark


ด้วยความเห็นส่วนตัวขั้นสุด

ผมว่า นักแสดงตลกคนนี้ คงเป็นคนอ่านหนังสือเยอะ ใช้เวลาขบคิดกับเรื่องบางเรื่องนาน

และเป็นคนขี้สังเกตตัวฉกาจ

โดยทั้งหมดนั้นมัดรวมอยู่ในการเล่าแบบทีเล่นทีจริง และมีอารมณ์ขันเหลือร้าย


หากการเล่าเรื่องตลก หนีไม่พ้นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัว เรื่องที่ประสบด้วยตัวเอง

ที่นำมาเขียน ปรับ ขยับบท จนสามารถเล่าเรื่องตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติ

แต่กับนักแสดงตลกคนนี้ ทำมากไปกว่านั้น คือการได้รู้ ได้ยิน ได้ฟังเรื่องราวที่อยู่ไกลตัว

แล้วเอามานั่งขบคิด ลองเขียนบทจากสิ่งนั้น ลองสังเกตหาแง่มุมความเป็นไปได้ใหม่ๆ

จนได้เป็นเรื่องเล่าที่แยบคาย


ฟังไปเพลินๆ อาจได้รู้เรื่องราวของประวัติศาสตร์ และฮาวทูการเป็นผู้นำที่ดีก็ได้


เพราะเรื่องที่เล่ามีตั้งแต่เรื่องล่าอาณานิคม ที่ตั้งคำถามกับชนเผ่า และคนที่มายึดแผ่นดิน

รวมกระทั่งปืน ว่าสิ่งที่เป็นไปทำไมถึงเป็นไปแบบนี้ และถ้าเป็นไปอีกแบบจะเป็นยังไง

เอาเข้าจริงความเห็นผม เรื่องในประวัติศาสตร์เหล่านี้เล่าให้ตลกยาก

คนเล่าจำเป็นต้องศึกษาอย่างถ่องแท้ และเข้าใจเรื่องราวนั้นมากๆ


เคยได้ยินประโยคนี้มั้ยครับ

ก่อนจะกลายมาเป็นเรื่องตลก ต้องถูกขบคิดอย่างจริงจังมาก่อน


อีกเรื่องคือการจินตนาการว่า ก่อนที่โอบาม่าจะกลายเป็นประธานาธิบดี ต้องทำยังไง

ส่วนตัวผมชอบเรื่องนี้มาก การเลียนเสียงโอบามา ท่าทางการเดินของโอบาม่าได้คือขั้นสุด

นั่นยังไม่นับความสามารถในการเลียนเสียงผู้นำสูงสุดของสองประเทศให้คุยกันบนเวทีได้

โดยมีแค่นักแสดงตลกคนนี้เพียงคนเดียวเป็นคนเล่า


นี่เป็นนักแสดงตลกที่ฉลาด และรอบรู้ที่สุด


ทางไปดู: Trevor noah: Afraid of the dark



4.

Jerry Seinfeld: 23hours to kill


นักแสดงตลกคนนี้ไม่ต้องอธิบายให้มากความ

นี่คือนักแสดงตลกระดับตำนาน อาจเรียกได้ว่าเป็นเบอร์หนึ่งในใจของคนหลายคน

นี่คือนักแสดงตลกที่ครบทุกอย่าง

ความรวย ความตลก ความแมส และความดึงดูดให้ทุกคนชอบ


อย่างพี่โน้ส อุดมเอง ก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า

นักแสดงตลกคนนี้เป็นหนึ่งในดวงใจ

ผมได้ลองดูทุกโชว์ของเขา ก็พอจะเข้าใจว่าทำไมพี่โน้ส และคนอีกหลายล้านคนถึงชอบ


มันเหมือนกับได้ดูภาพยนตร์แนวที่เราชื่นชอบ ที่เหมือนกับไม่ได้รู้สึกว่าดูภาพยนตร์อยู่

เหมือนกับได้ฟังเพลงที่ชอบ เพลงที่ฟังได้ทุกวัน อาหารที่กินได้ทุกมื้อ

อ่านแล้วอาจจะดูเวอร์ไป แต่นี่เรียกว่าความแมส

เข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัย เข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกกลุ่ม ทุกชนชั้น


ด้วยบุคลิก ท่าที ความโด่งดัง รวมถึงเนื้อหาที่เล่าก็คือเรื่องราวในชีวิตประจำวัน

ที่เล่าด้วยท่าทีสบายๆ แบบเพื่อนเล่าเรื่องบางเรื่องให้เพื่อนกันฟัง


แน่นอนว่ากว่าจะได้สิ่งนี้มา ต้องฝึกปรือจนชำนาญ ต้องทำการบ้านเยอะ

ฝึกซ้อมนับสิบนับร้อยครั้ง และความลับก็คือ นักแสดงตลกคนนี้เขียนมุกตลกทุกวัน

ย้ำ ทุกวัน เหมือนล้างหน้าแปรงฟัน จนมีสารคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา

ชื่อเรื่องว่า Jerry before Seinfeld ที่จะได้เห็นแผ่นกระดาษที่เค้าเขียนเรื่องราวจำนวนนมหาศาล


ฉะนั้น หากว่าคุณอยากดูว่าความแมส และความกลมกล่อมครบทุกรสชาติ

ผมแนะนำ นักแสดงตลกในตำนานคนนี้


ทางไปดู: Jerry Seinfeld: 23hours to kill



5.

Sebastian Maniscalco: Stay Hungry


นักแสดงตลกคนนี้เป็นบุคคลที่ผู้เขียนชอบที่สุด

หากคนไหนที่เห็นว่าผู้เขียนเอาแต่ใจตัวเองที่สุดที่เอามาแนะนำ เห็นจะเป็นคนนี้


สิ่งที่เป็นอาวุธลับของนักแสดงตลกคนนี้ เป็นอาวุธที่ออกมาจากเนื้อตัว

เป็นอาวุธที่ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ ไร้การปรุงแต่งหรือการแสดงเพื่อให้เกิดขึ้น


การเล่าเรื่องที่ผสานไปกับการเคลื่อนไหวของร่างกายนั้นช่างเหมือนกับการได้ดูศิลปะสักชิ้นที่งดงาม

การขยับของใบหน้าที่สื่อถึงอารมณ์ชั้นเยี่ยม การเคลื่อนไหวร่างกายในแบบที่คล้ายกับละครใบ้

การเล่าถึงสิ่งที่น่าหงุดหงิดจนเกือบถึงการเรียกว่า บ่น ออกมานั้น

ทำให้เรื่องราวที่เล่ามีชีวิตชีวา และเข้าถึงคนหมู่มากได้


เรื่องราวที่เล่าใกล้ตัวไกลตัววสลับกันไป

แต่เมื่อถูกสอดรับด้วยท่าทางที่แสดงออกมาเหมือนกับสิ่งนี้ออกมาเองอย่างเป็นธรรมชาติ

คุณจะลืมนักแสดงตลกคนนี้ไม่ลง จนต้องหาโชว์อื่นมาลองดูด้วย


ทางไปดู: Sebastian Maniscalco: Stay Hungry


______________________________________________________


และนี่คือทั้งหมด 5 โชว์ สแตนด์อัพคอมมิดี้ ที่เหมาะสำหรับ ‘มือใหม่หัดดู’


เดี๋ยวบทความหน้าจะมาเล่าเกี่ยวกับ 5 โชว์ สแตนด์อัพคอมมิดี้ของไทย

ในฉบับดูง่าย ใช้เสพเพื่อความบันเทิง ในคอมมูนิตี้ของ ‘ยืนเดี่ยว’ บ้าง


แน่นอนว่า ฉบับเอาแต่ใจเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือพูดไทยได้



ดู 524 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page